เกาะพยาม เป็นเกาะที่ตั่งอยู่ทางใต้ของเกาะช้าง และนักท่องเที่ยวก็นิยมมาเที่ยวที่แห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ห่างจากเกาะอื่นๆของพม่าประมาณ 30 กม.จากทิศตะวันตกเกาะพยามยังคงมีภูมิทัศน์ที่สวยงามและเป็นที่นิยมในหมู่ท่องเที่ยวที่มีความรักสันโดด ลักษณะทางภูมิศาสตร์ รอบๆ ชายฝั่งเป็นอ่าวสลับกับโขดหิน บริเวณตอนกลางของอ่าวเป็นหาดทราย ตอนกลางของเกาะพื้นที่เป็นภูเขามีป่าไม้และสัตว์ป่าประเภทนก ลิงและหมูป่า พื้นที่บางส่วนถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวน ชาวบ้านบนเกาะมีอาชีพทำสวนมะพร้าว สวนยางและสวนกาหยู(มะม่วงหิมพานต์) ในช่วงฤดูแล้งจะมีกลิ่นหอมของเผลมะม่วงหิมพานต์ในอากาศ
ทุกๆปีของวันที่ 16 มีนาคม จะมีเทศกาลม็ดมะม่วงหิมพานต์ พร้อมทั้งสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เช่นไก่ชน มวยไทยและแม้กระทั่งการแข่งขัน "Miss มะม่วงหิมพานต์" ชาวประมงส่วนใหญ่ของที่นี้จับกุ้งกุลาดำตามแหล่งน้ำโดยรอบ มันมีรสชาติอร่อยมาก

ชายหาดขาวสะอาดทอดตัวเป็นแนวยาวไปตามตัวเกาะ เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำและเรือคายัค เกาะพยามคล้ายกับเกาะสมุยเมื่อ18ปีและคล้ายกับภูเก็ตเมื่อ17ปี แต่มีขนาดเล็กกว่าโดยมีเศรษฐกิจลักษณะเดียวกัน มีการให้บริการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี แม้ว่าในช่วงฤดูฝนรีสอร์ทจำนวนมากทางฝั่งตะวันตกจะปิดเนื่องมาจากลมแรงและฝนตก แต่หมู่บ้านชายฝั่งตะวันออกได้รับความคุ้มครองจากลมและน้ำทะเลทำให้เกิดความสงบเกือบทั้งปี รีสอร์ทส่วนใหญ่ฝั่งนี้เปิดตลอดทั้งปี ในช่วงพฤษภาคม-ตุลาคมมีเพียงเรือรอบบ่ายบริการไปและกลับจากระนอง

สถานที่ให้บริการต่างๆตั้งอยู่บนชายฝั่งทางทิศตะวันออกเป็นศูนย์กลางของเกาะ ที่นี่คุณสามารถพบที่ทำการไปรษณีย์ สำนักงานนายกเทศมนตรี วัดกลางน้ำและท่าเรือเฟอร์รี่ มีร้านค้าขายของชำรวมทั้งผักและผลไม้ (ราคาค่อนข้างแพงเพราะทุกอย่างจะต้องมีการขนส่งจากแผ่นดินใหญ่) มีทั้งร้านอาหารไทยและอาหารตะวันตก และคุณสามารถพบเพื่อนดื่มได้ที่บาร์ของออสการ์ มีร้านค้าสำหรับเช่ารถจักรยานยนต์ร้านอินเตอร์เน็ต มีหน่วยงานการท่องเที่ยวและศูนย์ดำน้ำ และที่นี้มีเกสต์เฮ้าส์และรีสอร์ทที่ดีมากให้เลือกหลายราคา

จากท่าเรือจะเห็นถนนคอนกรีตแคบมุ่งทางทิศเหนือของอ่าวเขาควาย ตรงทางแยกมีร้าน B & B มินิมาร์ มองเลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางตอนใต้จะมองเห็นบางส่วนของอ่าวควาย ถนนบางสายเป็นหลุมเป็นบ่อ บางสายเป็นถนนลูกรังและกรวด เส้นทางที่มีแทบจะไม่กว้างเกิน 1 ม.นั่นหมายความได้อย่างเดียวว่าว่าการเดินทางการขนส่งของที่นี้ ใช้รถจักรยานยนต์รถแท็กซี่ดังนั้นการขนส่งสำภาระสิ่งของต้องความชำนาญและความระมัดระวังทำให้พนักงานที่นี้ต้องทำงานยากมากในการขนส่งสัมภาระถึงที่พักบังกะโล

ในขณะนี้มีกว่า 50 รีสอร์ทบังกะโลบนเกาะพยามในช่วงเวลา 3 ปีนี้ มีการขึ้นเป็น 2เท่า และยังคงขึ้นต่อไปเรื่อยๆภายใต้การก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนทางใต้ของอ่าวใหญ่ มีบาร์ใหม่เปิดขึ้นจำนวนมาก การพัฒนาใหม่อย่าช้านี้ ภายใต้ตัวแปร ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความที่เงียบสงบที่มีของเกาะแล้วมันจะค่อยๆแพร่กระจายไปรอบๆชายหาดทั้งหมดบังกะโลเกือบทั้งหมดจะทำจากวัสดุธรรมชาติหรืออิฐหินดิน สามารถระเบียงห้องและห้องน้ำส่วนตัวและห้องอาบน้ำ อ่างน้ำและห้องสุขาแบบนั่ง พวกเขาต้นทุนเฉลี่ย ประมาณ 300 - 800 บาทต่อวัน มีเพียงไม่กี่รีสอร์ทที่มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน
แสงอาทิตย์หรือลม นอกนั้นใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า

บังกะโลตั้งอยู่อย่างเงียบๆ ใต้ร่มเงาต้นมะพร้าวหรือต้นไม้ที่สงบนิ่ง สามารถมองมองเห็นวิวทะเล ของสวนหลังชายหาด รีสอร์ท
เกือบทั้งหมดของที่นี้มีร้านอาหารดีแต่ราคาไม่ถูกเพราะเป็นอาหารทะเลสดที่มีการจับกันสดๆ เริ่มต้นราคาที่ 80 - 100 บาทเป็นฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม ห้องพักบังกะโลทั้งหมดส่วนใหญ่ทั้งถูกจองหมดจนเต็ม ขอแนะนำให้โทรสำรอง
บังกะโลส่วนใหญ่บนเกาะพยามมีการติดตั้งพัดลมและมุ้ง ห้องน้ำในแบบห้องน้ำยุโรป และราคาจะแต่ต่างกันไปขึ้นอยู่กับเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม

แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่รีสอร์ทที่เป็นของคนท้องถิ่นแต่ก็มีความสัมพันธ์กันดีระหว่างเจ้าของบังกะโลมาจนถึงปัจจุบันไม่มีความอิจฉาและความคิดที่จะการแข่งขันกันในธุรกิจ ที่ดินบนชายหาด 75 %ของที่นี้เป็นคนนอกพื้นที่ซึ่งพูดว่ากำลังรอที่จะสร้างรีสอร์ท"ดีกว่า" และสิ่งนั้นมันจะชี้ไปเห็นเห็นถึงความล้มเหลวมาสู่หมู่บ้านพยามและอ่าวอันดามัน ทำให้คนกลุ่มน้อยและคนท้อนถิ่นไม่พอใจและพูดคุยอย่าน่ากลัวถึงการกำจัดพวกนายทุนหน้าเลือด บางคนมุ่งมั่นให้มีการกระตุ้นของการอนุรักษ์ธรรมชาติบนเกาะโดยคัดค้านการก่อสร้างคอนกรีตที่มากขึ้น คิดว่านี่เป็นโอกาสน้อยที่จะเกิดขึ้นบนเกาะที่ยังมีแหล่งน้ำไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว