อีเมล์ รหัสผ่าน จดจำในระบบ

This website is better viewed with
FIREFOX
or GOOGLE CHROME
Review www.t-globe.com on alexa.com

สถานที่ท่องเที่ยวรอบเมืองสุราษฎร์ธานี




จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและค้นหา
ภาพประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่เรื่องราวของอดีตที่น่าสนใจสิ่งก่อสร้างทางพุทธศาสนาที่งดงามและทรงคุณค่าต่อการกราบไหว้บูชาและเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ของเยาวชนคนรุ่นใหม่
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว สุราษฎร์ธานียังเป็นดินแดนแห่งธรรมชาติที่มีแม่น้ำ ทะเล น้ำตก ป่าเขา ทะเลหมอกที่งดงามและวิถีชีวิตชุมชนที่ดำเนินอยู่ ณ ดินแดนแห่งนี้

มาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สิ่งแรกเลยที่เราควรทำไม่ว่าจะไปเยือนจังหวัดไหนก็ตาม คือ
การแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเพื่อเสริมสิริมงคลให้การเดินทางปลอดภัยเหมือนกับทำเนียมโบราณไปลามาไหว้ เมื่อเราไปในที่ที่เราไม่เคยไปเราก็ควรไปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางกันซะก่อน และวันนี้เรามาถึงเมืองสุราษฎร์ทั้งทีจึงขอมาสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมืองและสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองกัน ดั่งคำบอกเล่าจากปู่ย่าตายายมาช้านานแล้วว่า
"ถ้าอยากที่จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ก็ต้องไปสักการะบูชาศาลหลักเมือง"
- ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสุราษฎร์ธานีพากันมาสักการะอยู่เป็นประจำเพราะถือว่าเป็นมงคลและหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองทำให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุขรุ่งเรืองตลอดเวลา 
ศาลหลักเมืองตั้งอยู่บนถนนดอนใกล้กับตลาดบ้านดอนบริเวณริมแม่น้ำตาปี ชาวสุราษฎร์เคารพบูชาศาลหลักเมืองเป็นอย่างมากแม้แต่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองสุราษฎร์ ก็ไม่พลาดที่จะแวะมาสักการะกันหากท่านแวะมาเยือนเมืองสุราษฎร์ควรเข้าไปกราบสักการะบูชาสักครั้งหนึ่งเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนและครอบครัว


เมื่อได้ก้าวเข้าไปยังวิหารศาลหลักเมืองจะได้สัมผัสถึงความศักดิ์สิทธิ์ ที่ควรค่าแก่การมาเยือนเพื่อสักการะขอพร เปิดให้เข้ามาสักการะได้ภายในเวลา 06.00-18.00 น. ไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมใดๆ หากท่านแวะมาท่องเที่ยวเมืองสุราษฎร์ อย่าลืมแวะมาสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองกันเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตกันด้วยน่ะค่ะมิเช่นนั้นเหมือนมาไม่ถึงเมืองสุราษฎร์

- เกาะลำพู ตั้งอยู่คนละฝั่งกับตัวเมืองมีลักษณะเป็นเกาะเล็กๆ ที่โผล่ขึ้นมากลางลำน้ำตาปี ลักษณะก็คล้ายๆ พื้นที่ราบในเมืองทั่วไปมีบ้านเรือนตั้งอยู่ มี "สวนสาธารณะเกาะลำพู" พร้อมพื้นที่สำหรับการพักผ่อนพร้อมบริการเครื่องออกกำลังกายสาธารณะให้บริการฟรี หรือท่านเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารริมน้ำที่มีให้เลือกอิ่มอร่อยอยู่หลายร้าน เปิดบริการตั้งแต่เช้าจนเกือบเที่ยงคืนของทุกวัน เกือบทุกร้านจะมีอาหารทะเลและอาหารพื้นเมืองของจังหวัดสุราษฎร์บริการด้วย

Lak Muang Surat (ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี) (SuratThani)

ศาลหลักเมืองเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุราษฎร์ ในช่วงเย็นถึงค่ำจะมีประชาชนมานมัสการศาลหลักเมืองกันหนาตาทุกวัน ด้านหน้าศาลมีซุ้มดอกไม้ธูปเทียนไว้บริการ มีดอกบัวหลวง ดาวเรือง และบานไม่รู้โรย ไว้สำหรับบูชา

ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชสักการะและเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2539 และเพื่อความเป็นศิริมงคล, เป็นหลักชัยละมิ่งขวัญรวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ออกแบบโดยคณะช่างจากกรมศิลปากร ด้วยการเน้นรูปลักษณ์ที่เป็นสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเดิมที่ได้รับอิทธิพลมาจากลังกาชวาและเขมรผสมกลมกลืนกัน มีรูปแบบตามตามศิลปกรรมศรีวิชัย

สำหรับรูปทรงของศาลนั้นได้สร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรมุขย่อมุมมณฑปสร้างเป็นเจดีย์องค์ประธานมียอดฉัตร 5 ชั้น ถัดลงมาเป็นหลังคาซ้อนเป็นชั้นมณฑปลดหลั่นลงมาจำนวน 4 ชั้น แต่ละชั้นมีเจดีย์องค์บริวาร หลังคามีฐานสี่เหลี่ยมขนาดสูง 5.10 เมตร กว้าง 2.10 เมตร ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นแบบศรีวิชัยทาสีทอง ปั้นก่อบัวลวดลายบนกลีบขนุนทั้ง 4 ด้าน และได้อัญเชิญเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ฉลองราชสมบัติครบ 50 พรรษา ประดับไว้ทั้ง 4 ด้าน

ถ.ดอนนก ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Koh Lampu Public Park (สวนสาธารณะ เกาะลำพู) (SuratThani)

เกาะลำพูเป็นเกาะเล็กๆ พื้นที่ขนาด 6 ไร่ มีน้ำล้อมรอบจึงดูร่มรื่นเปรียบประดุจปอดใหญ่ใจกลางเมือง ตั้งอยู่กลางแม่น้ำตาปี ต้องข้ามสะพานไปทางฝั่งในบาง เรียกว่าสวนสาธารณะลอยน้ำกลางเมืองสุราษฎร์เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวบ้าน บนเกาะเป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นไม้เหมาะสำหรับกับการวิ่งจ็อกกิ้งหรืออ่านหนังสือนั่งรับลมเย็นๆ ริมน้ำ บริเวณภายในยังมีสนามกีฬาชนิดต่างๆ เช่น สนามเเบตมินตัน สนามฟุตบอล สนามเปตอง สนามบาส สนามตระกร้อฯลฯ และมีเครื่องบริหารร่างกายหลายชนิดตั้งเป็นจุดๆ อีกทั้งสนามเด็กเล่น ตกเย็นอย่าลืมไปสัมผัสบรรยากาศเกาะลำพู

ทัศนียภาพโดยรวมของสวนสาธารณะเเห่งนี้เต็มไปด้วยความร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ความสวยงามจากเเม่น้ำตาปีที่โอบกอดเกาะเเห่งนี้ไว้ เกาะลำพูยังเหมาะเเก่การเรียนรู้เเละชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติเหมาะกับคนที่ชอบธรรมชาติมากกว่าแสงสี



ต.บางใบไม้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

- คลองร้อยสาย
คลองร้อยสายเป็นชื่อเรียกของลำน้ำเล็กๆ ที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำตาปีซึ่งมีคลองเล็กคลองน้อยนับร้อยคลอง การล่องคลองร้อยสายเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ไม่ควรพลาด แม้จะต้องตื่นกันเช้าสักหน่อยแต่ต้องขอบอกว่า "คุ้มค่า" เมื่อได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายพึ่งพาอาศัยลำน้ำในการดำรงชีพ ที่นี่..ชุมชนคลองร้อยสายได้รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของคนในอดีตมาถึงปัจจุบัน ภาพต้นจากท่ามกลางใบสีเขียวสดโบกสะบัดตามกระแสลมชวนพิศวง น้ำในคลองดูเย็นตายามล่องเรือดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาตินี่คือรางวัลที่โลกสรรค์สร้างเมื่อเราใส่ใจรักษาสิ่งแวดล้อม

- ตลาดนัด ตลาดน้ำบ้านดอน ตลาดน้ำแห่งใหม่ใจกลางเมือง
บริเวรริมแม่น้ำตาปีบรรยากาศยามเย็นอันร่มรื่น เปิดตลาดเฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 16.00 - 21.00 น. ที่นี่จำลองความเป็นไทยที่งดงามมีสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้าและของฝากโดยเฉพาะอาหารการกินที่ขอบอกว่าจัดเต็มมาก มีแต่ของอร่อยที่จะให้คุณได้กินจนพุงกางกันไปเลยนอกจากนี้ยังมีบริการเรือนำเที่ยวชมหิ่งห้อยอีกด้วย ตลาดน้ำแบบเรียบง่ายไม่ได้กว้างมากเป็นตลาดที่เกิดจากรวมตัวของชาวบ้านดอน ให้ชุมชนได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ผลิตในชุมชนไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ขนมคาวหวานที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
เพราะฉะนั้นสิ่งแรกเมื่อมาถึงตลาด เราจะสามารถสัมผัสได้นั่นคือความเป็นมิตรของพ่อค้าแม่ค้าซึ่งร้องเรียกทักทายเชิญชวนให้มาชมสินค้าหรือทานอาหารแบบเป็นกันเองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านหรือลูกหลานมาขายสินค้าในวันหยุดหลังจากทำงานหลักในวันธรรมดา
Klong Roi Sai (คลองร้อยสาย) (SuratThani)
ราคา: 50 Baht

คลองร้อยสาย เป็นฉายาของดินแดนที่มีคลองเล็กๆ มากมายในบางใบไม้ของแม่น้ำตาปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย 6 ตำบล ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์วิถีไทยจนเรียกได้ว่าเป็นชนบทในตัวเมืองเลยทีเดียว บรรยากาศภายในบางร่มรื่นเพราะเต็มไปด้วยสวนจากและสวนมะพร้าว เวลาน้ำลงอย่างนี้จะเห็นลูกจากที่แก่และหลุดล่วงจากต้น ลอยน้ำมาเป็นระยะๆ บ้างก็งอกเป็นต้นแล้วบ้างก็ยัง พี่พาณุคนขับเรือและทำหน้าที่เป็นไกด์ไปในตัวบอกกับเราว่าว่าลูกจากนี้ลอยไปติดที่ใดก็จะขึ้นเป็นต้นจาก ให้เจ้าของบ้านได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ใบจากเอามาห่อทำขนมจากหรือทำเป็นหลังคากันฟ้าฝนได้ สมัยก่อนนำมาสานเป็นที่ตักน้ำไว้ใช้ที่เรียกว่า"หมาจาก" อีกด้วย

49 หมู่ 5 ต.บางชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Taladnud Taladnam Bandon (ตลาดนัด ตลาดน้ำ บ้านดอน) (SuratThani)

ตลาดน้ำ-ตลาดนัดบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ มีร้านขายสินค้าหลากหลายส่วนมากแล้วก็จะเป็นอาหารโดยเฉพาะขนมพื้นบ้าน เช่น ผัดไทยไชยา ข้าวหลามน้ำรอบ ขนมโค ขนมจาก เป็นต้น
และยังมีลานนั่งเล่นได้บรรยากาศการรับประทานอาหารริมแม่น้ำในช่วงเวลาพลบค่ำตะวันกำลังจะลาขอบฟ้า ซึ่งตลาดนัด-ตลาดน้ำบ้านดอน แห่งนี้มีรูปแบบภายใต้แนวคิด "บ้านดอนย้อนยุค" รวมของดีพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรมของชาวใต้ มีการแสดงและการละเล่นที่น่าสนใจและหาชมได้ยากในสมัยนี้

บริเวณท่าปลาวาฬ(สวนศรีตาปี) อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000


พาเที่ยววัด ไหว้พระ ๙ วัด มหามงคล เมืองสุราษฎร์ธานี


เส้นทางไหว้ พระ ๙ วัด ที่สำคัญของเมืองสุราษฎร์ เส้นทางสั้นๆ ใช้เวลาไม่มากนัก 3-4 ชั่วโมง ภายในตัวเมืองระยะทางไม่ถึง 10 ก.ม. เป็นเส้นทางมหามงคล-มนต์เสน่ห์ แห่งเนื้อนาบุญ ภายในตัวเมืองสุราษฎร์มีวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญและมีประวัติยาวนาน นับเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับชาวพุทธ
ที่ต้องการทำบุญไหว้พระเก้าวัดตามความเชื่อเพื่อเป็นสิริมงคลกับตน และยังมีเวลาเหลือสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ภายในจังหวัดถึงจะมีเวลาสั้นๆ เพียงแค่ครึ่งวันก็สามารถทำได้

เริ่มกันที่วัดคู่บ้านคู่เมือง ที่ต้องไม่พลาด กับการมาไหว้ พระเมืองสุราษฎร์ธานี

1. วัดพัฒนาราม

เดิมชื่อ วัดใหม่ เป็นวัดเก่าแก่
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลังวัดพระโยค เลขที่ 87/1 ถนนพัฒนาราม
ต.ตลาดล่าง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
โทร. 077-273975 
เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพัฒน์ นารทะ ผู้สร้างวัด
หลังจากกลับจากธุดงค์พร้อมกับพระอาจารย์สุข

Wat Pattanaram (วัดพัฒนาราม) (SuratThani)

วัดพัฒนาราม เดิมชื่อวัดใหม่ เป็นวัดที่หลวงพ่อพัฒน์ นารทะ สร้างขึ้น ตั้งอยู่ที่ 87/1 ถนนพัฒนาราม ตำบลตลาดล่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000 โทร.077-273975 วัดพัฒนาราม จัดเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาทาง วัฒนธรรมวัตถุ และพิธีกรรมต่างๆ เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตและความเชื่อของชาวสุราษฎร์ธานีอย่างยิ่ง และเป็นโรงพยาบาลแผนโบราณแห่งแรกอีกทั้งยังเป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา

ประวัติความเป็นมา หลวงพ่อพัฒน์อุปสมบทและจำพรรษาที่วัดพระโยคหลายพรรษา จนถึงปี 2439 หลังจากกลับจากธุดงค์กับพระอาจารย์สุข ก็ได้สร้างวัดขึ้นใหม่ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "วัดใหม่" หลวงพ่อสร้างวัดบริเวณที่ดินร้างด้านหลังป่าช้าวัดพระโยคยังเป็นป่ารกทึบเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิ เสือ ลิง ค่าง งูพิษ หนูป่า โดยท่านได้ชักชวนชาวบ้าน ญาติมิตร และผู้มีจิตศรัทธา

หลานชายหลวงพ่อกล่อมแห่งวัดโพธิ์เล่าว่า "ผู้ใหญ่ทับ ม่วงทอง เกณฑ์คนจากสะบ้าย้อย คลองฉนาก มาขุดสระให้หลวงพ่อพัฒน์สร้างวัด ถมดิน ทำโบสถ์"


87/1 ถ.หน้าเมือง ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

2. วัดพระโยค
เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่งในอำเภอเมืองคาดว่าเป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น(รัชกาลที่1) ตั้งอยู่ใกล้ วัดพัฒนาราม เลขที่ 236 ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี
องค์พระประธาน ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถของวัดประโยค
มีขนาดหน้าตักกว้าง 90 นิ้ว สูงจากฐานถึงพระเกศา 118 นิ้ว
(ไม่รวมฐาน)
ปัจจุบัน พระอุดมธรรมปรีชา รองเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี
รักษาการณ์เจ้าอาวาส


3. วัดไตรธรรมาราม
ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ นมัสการพระโพธิพุทธคยานุสรณ์
ภายในวัดมีพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ตั้งเป็นสง่าคู่บารมีประจำวัดเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยและปางตรัสรู้ภายในองค์พระพุทธรูปได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่ตรงกันข้ามพระอุโบสถใกล้ประตูวัดใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ตั้งอยู่ 246/1 ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี



4. วัดกลางเก่า
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดไตรธรรมาราม
บนถนนบ้านดอน ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 
สันนิษฐานว่าสร้างก่อน พ.ศ.2320
"พระอธิการซ้อน" อดีตเจ้าอาวาสละสังขารมานานกว่า 50 ปี
ท่านอยู่ในโลงแก้วทางประตูใกล้ทางออกไปแม่น้ำตาปี ให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา
ถ้าเดินข้ามถนนไปตรงกันข้ามกับประตูวัดก็เป็นศาลาเล็กเล็กตั้งอยู่ริมแม่น้ำตาปี สำหรับชาวบ้านนั่งพักผ่อนหรือจอดเรือชาวบ้านขนาดเล็กเพื่อขึ้นฝั่ง

5. วัดไทร
อยู่ถนนหน้าเมือง ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี  จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศรีวิชัย เมื่อครั้งสมัยอดีต
เป็นวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากและได้มีการค้นพบ
องค์พระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทราย
สมัยโบราณ
ปัจจุบันประดิษฐานที่พระอุโบสถหลังใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2474
ส่วนวัตถุโบราณที่ปรักหักพังได้เก็บรวบรวมไว้ใต้ฐานพระอุโบสถ และสามารถเข้าชมโรงเรียนโบราณซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดใกล้พระอุโบสถหลังใหม่
Wat Phra Yok (วัดพระโยค ) (SuratThani)

วัดพระโยคเป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่งในอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เริ่มก่อสร้างสมัยใดไม่ปรากฏ สันนิษฐานว่ามีอายุร่วม 200 ปี คาดว่าเป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก-รัชกาลที่ 1)
จากตำนานเล่าขานสาเหตุที่ได้ชื่อว่าวัดพระโยค จากเดิมพระประธานของวัดปัจจุบัน (ตั้งอยู่ใต้ต้นข่อยข้างจอมปลวกหน้าพระอุโบสถ) ชาวบ้านใกล้เคียงพบเห็นพระประธานโยกไปโยกมาก็เรียกกันว่าวัดพระโยค

ตำนานความเชื่อมีด้วยกันมากมายหลากหลายเรื่องราว เช่น
- พระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านใกล้เคียงเล่าขานต่อ ๆ กันมาว่ามีสามเณรรูปหนึ่งไปทำความสะอาดในพระอุโบสถแล้วเกิดหายตัวไปเหลือเพียงจีวรและมีคราบสีแดงคล้ายโลหิตติดอยู่ที่ปากของพระประธาน หรือเกิดจากการที่ปรอทที่ใช้หล่อองค์พระที่อยู่บริเวณใต้พระหนุ(คาง) ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับเนื้อของโลหะที่ใช้หล่อองค์พระทำให้เกิดการไหลออกมาสีแดง ๆ คล้ายโลหิต
- มีคณะมโนราห์(การแสดงพื้นเมืองภาคใต้ )ใช้เส้นทางบริเวณวัดพระโยคเป็นทางผ่าน เพื่อจะไปแสดงอีกสถานที่หนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหลายอย่างเป็นเหตุให้ไม่สามารถแสดงได้คิดว่าจะเป็นเพราะไม่ทำความเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านมาหรือไม่ จึงเดินทางกลับมาแสดงที่หน้าพระประธานที่วัดพระโยคเพื่อเป็นการขอขมาลาโทษ จากนั้นทุกปีจะจัดให้มีการแสดงมโนราห์เป็นงานประจำปี ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานกันว่าหากมีวงมโนราห์วงใดที่จะต้องผ่านวัดพระโยค แต่ไม่มีการแสดงหน้าองค์พระประธานจะมีเหตุให้สมาชิกในวงไม่สามารถทำการแสดงได้

องค์พระประธานที่ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดประโยคปัจจุบันมีขนาดหน้าตักกว้าง 90 นิ้ว สูงจากฐานถึงพระเกศา 118 นิ้ว (ไม่รวมฐาน) ปัจจุบัน พระอุดมธรรมปรีชา รองเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานีรักษาการณ์เจ้าอาวาส




236 ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Wat Tritammaram (วัดไตรธรรมาราม) (SuratThani)

วัดไตรธรรมมาราม ตั้งอยู่เลขที่ 246/1 ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
มีพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 33 นิ้ว 1 องค์ พระพุทธรูปปางตรัสรู้ สร้างด้วยคอนกรีต ขนาดหน้าตักกว้าง 3 วา 2 ศอก สูง 4 วา ศอก 8 นิ้ว ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ นามว่า "พระโพธิพุทธคยานุสรณ์"

246/1 ถ.หน้าเมือง ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Wat Klang (วัดกลางเก่า) (SuratThani)

วัดกลางเก่า ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดไตรธรรมาราม เดิมวัดแห่งนี้สันนิฐานว่า น่าจะสร้างก่อน พ.ศ.2320 เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยชุมชนและพระสงฆ์ช่วยกันสร้างใกล้ริมแม่น้ำตาปี ซึ่งท่าน้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ค้าขายสินค้าของประชาชนด้วยกัน จึงสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นที่สถานที่ทำบุญ เป็นที่พึ่งทางใจ เป็นศูนย์กลางของชุมชน วัดกลางมีบทบาทอันสำคัญในการเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพระพุทธศาสนา


ถ.บ้านดอน ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Wat Sai (วัดไทร ) (SuratThani)

วัดไทร มีวัตถุโบราณหลายชิ้นหลักฐานยืนยันว่าเป็นวัดประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงบันทึกไว้ว่าอาณาจักรศรีวิชัยเคยรุ่งเรืองในอดีต กินเขตแดนตั้งแต่ชุมพร-สุราษฎร์ธานีเรื่อยมาจดแหลมมะลายู และเกาะสุมาตรา บรรดาก้อนอิฐหินดินทรายที่เหลืออยู่ใต้ดินเท่าที่ขุดพบล้วนเป็นศิลปวัตถุโบราณ เช่น พระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายของวัดไทรเป็นพระพุทธรูปสมัยศรีวิชัยและปัจจุบันได้นิมนต์มาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถใหม่ ซึ่งสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ ส่วนศิลปวัตถุโบราณที่สลักหักพังได้เก็บรวมรวมไว้ใต้ฐานพระอุโบสถปัจจุบันของวัดไทร

วัดไทรในอดีตได้ชำรุดทรุดโทรมเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าเป็นเวลาหลายสิบปีจนกลายเป็นวัดที่มีต้นไม้นานาชนิด โดยเฉพาะต้นไทรยังคงปรากฏอยู่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัดไทร เมื่อประมาณ ๖๐ ปี ที่ผ่านมา บริเวณวัดไทรเป็นป่ารกรุงรังเป็นที่ลุ่มและหนองน้ำ สภาพวัดมีกุฏิหลังคาจากทรงไทยเพียงไม่กี่หลัง พระอุโบสถหลังเดิมก็ชำรุดสลักหักพังต้องมุงด้วยหลังคาจาก แต่ก็ยังมีริ้วรอยลวดลายดั้งเดิมไว้ให้เห็นฝีมือของนายช่างสมัยโบราณทั้งหน้าบรรณและฝาผนังไม่สามารถจะบูรณะให้คงสภาพเดิมไว้ได้

จนมาถึงสมัยท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน เริ่มแต่ พ.ศ. ๒๔๖๕ เป็นต้นมา วัดไทรจึงได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ให้อยู่ในสภาพแห่งความรุ่งเรืองเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ร่วม ๕๐ ปี

ถ.หน้าเมือง ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.เมืองสุราษฎร์ธานี 84000

6. วัดธรรมบูชา
เป็นวัดพระอารามหลวง
ตั้งอยู่เลขที่ 143/1 ถ.ชนเกษม ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
โทร. 077-282865-6
ที่สำคัญ ทางวัดได้จัดอบรมการฝึกฝนธรรมเทศนาและมีการเผยแผ่ให้แก่ผู้สนใจ นอกจากนั้นยังมีการออกเผยแผ่นอกสถานที่ร่วมกับทางราชการในฐานะพระธรรมทูตอีกด้วย




7. วัดสามัคคีผดุงพันธ์

ตั้งอยู่ 362 ถ.ชนเกษม  ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
มีพระครูสุนทรศาสนคุณ เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน






8. วัดโพธาวาส  หรือ วัดหลวงพ่อกล่อม
ตั้งอยู่  50 ถนนวัดโพธิ์ ต.ตลาด อ.เมืองจ.สุราษฎร์ธานี
เป็นวัดที่มีชื่อเสียง เรื่องเครื่องรางของขลังโดยเฉพาะ ตะกรุด
ดังคำที่กล่าวจนรู้จักกันทั่วไปว่า
"ตะกรุด 3 ดอก หลวงพ่อกล่อมวัดโพธาวาส สุราษฎร์ธานี"
ถือเป็นสุดยอดตะกรุดที่หายากและราคาแพงมากที่สุดในภาคใต้




9. วัดกลางใหม่
ตั้งอยู่ บ้านแหลมทราย ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
ก่อตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2497
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. พ.ศ.2511
ปัจจุบันมีพระครูปริยัติคุณาวุธ เป็นเจ้าอาวาส
Wat Thamma Bucha (วัดธรรมบูชา) (SuratThani)

วัดธรรมบูชา เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดภาค 16 นิกาย ธรรมยุต อยู่ในเขตอำเภอเมือง ต่อมาพระธรรมธัชมุนี ได้ปรับปรุงเป็นการศึกษาคันถธุระควบคู่กับวิปัสสนาธุระด้วย โดยได้ก่อตั้งสำนักเรียนพระปริยัติธรรมและบาลี จนถึงบัดนี้มีนักเรียนสอบบาลีได้ถึง 9 ประโยค ในด้านการเผยแผ่ได้จัดให้มี การฝึกฝนการเทศนาอบรมประชาชน ตลอดถึงการออกเผยแผ่นอกสถานที่ ร่วมกับ ทางราชการในฐานะพระธรรมทูตด้วย ส่วนด้านการปกครองได้อบรมสั่งสอน พระภิกษุสามเณร ให้ปฏิบัติดำรงอยู่ในพระธรรมวินัย จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของ ประชาชนทั่วไปตลอดมา และเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาสุราษฎร์ธานี โทร 077-282865-6 โทรสาร 077-282865-6 ต่อ 108

143/1 ถ.ชนเกษม ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Wat Samakkhi Phadungphan (วัดสามัคคีผดุงพันธ์) (SuratThani)

วัดสามัคคีผดุงพันธ์ ตั้งอยู่เลขที่ 362 ถนนชนเกษม หมู่ที่ 4 ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต
วัดสามัคคีผดุงพันธ์ ตั้งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2516 นายพันธ์ แก้วหีตนัย และนายผดุงวัชรพงศ์ เป็นผู้ถวายที่ดิน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2516

362 หมู่ 1 ถ.ชนเกษ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Wat Phothawas (วัดโพธาวาส) (SuratThani)

วัดโพธาวาส หรือ วัดหลวงพ่อกล่อม ก่อตั้งเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๓๓๐
ตั้งอยู่เลขที่ ๕๐ บ้านมะขามเตี้ย ถนนวัดโพธิ์ ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๕ ไร่ ๒ งาน ๗๓.๕ ตารางวา
มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๗๑ นิ้ว สูง ๘๐ นิ้ว เป็นพระประธานในพระอุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๒
หลวงพ่อกล่อมมีชื่อเสียงเรื่องตะกรุด ดังคำที่กล่าวจนรู้จักกันทั่วไปว่า "ตะกรุด ๓ ดอก หลวงพ่อกล่อม วัดโพธาวาส สุราษฎร์ธานี " ถือเป็นสุดยอดตะกรุดที่หายากและราคาแพงมากที่สุดของภาคใต้ เพราะด้วยประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ หายากกว่าเหรียญหล่อรุ่นแรก ปี ๒๔๗๐ และหลวงพ่อผ่านมือและจารอักขระสัมผัสทุกดอก



50 ถ.วัดโพธิ์ ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Wat Klang Mai (วัดกลาง ใหม่) (SuratThani)

วัดกลางใหม่ ตั้งอยู่บ้านแหลมทราย หมู่ที่ 2 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 23 ไร่ 2 งาน 54 ตารางวา
วัดกลางใหม่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2497 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2511ปัจจุบันมี พระครูปริยัติคุณาวุธ เป็นเจ้าอาวาส

หมู่ 2 ถ.ศรีวิชัย ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

สักการะ ๘ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ แห่งเมืองสุราษฎร์ สถานที่เคารพของชาวไทยเชื้อสายจีน
เป็นสถานที่ที่ผู้คนต้องแวะเวียนมากราบไหว้ขอพร ซึ่งหลายคนเชื่อว่าหากได้มากราบไหว้แล้วจะนำมาซึ่งโชคลาภ ความร่ำรวย ความสำเร็จ และความสุข และยังเป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราวรูปแบบ วิถีชีวิตของชนชาวจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชนชาวไทยเสมือนพี่กับน้อง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ควรค่าแก่การสักการะบูชา

1. ศาลเจ้าปุนเถ่ากง หรือ ศาลเจ้าแต้จิ๋ว
ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติว่าสร้างมากว่า 100 ปีแล้ว และมีการปรับปรุงมาตลอดเวลา ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามท่าเรือนอน
การมาไหว้พระที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็สะดวก
มีเจ้าหน้าที่ดูแลศาลเจ้าแล้วจัดเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน น้ำมัน ไว้ให้อย่างพร้อมเพรียง ถ้าท่านจะมาไหว้ก็เพียงเตรียมของที่จะมาสักการะเพิ่มเติมเอาเองตามแต่ศรัทธา
ไหว้เสร็จแล้วก็ทำบุญตามกำลังทรัพย์ไม่มีเรียกร้องหรือตั้งราคาแต่อย่างไร


2. ตำหนักอ๋องฮกเกี้ยน
สร้างขึ้นเพื่อใช้ที่สักการะและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้รำลึกถึงบรรพบุรุษและได้อัญเชิญองค์เทพเจ้าแลฮู้อ๋องเอียกงมาจากมณฑลฮกเกี้ยน จำนวน 3 องค์
มาประดิษฐานเป็นเจ้าองค์ประธานในศาลเจ้าฮกเกี้ยน
ภายหลังได้มีการอัญเชิญองค์เทพเจ้ามาร่วมศาลอีก 2 องค์
คือ เจ้าแม่กวนอิม และ เจ้าแม่ทับทิม




3. ศาลเจ้าไหหลำ บ้านดอน
ภายในศาลเจ้าแห่งนี้จะมีเจ้าแม่ทับทิม หรือ หม่าโจ้วเนี่ยเนี้ย
หรือเทียงโฮ้วเซี้ยบ้อ เป็นองค์ประธาน
- ด้านขวาจะมีรูปบูชากวางตี้ หรือ เทพเจ้ากวนอู ที่ชาวไหหลำให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง
- ด้านซ้ายจะมีเทพเจ้า 108 ตั้งอยู่ด้วย
ที่สำคัญ ศาลเจ้าไหหลำแห่งนี้นับเป็นจุดศูนย์กลางของชาวไหหลำในสุราษฎร์ธานี



4. ศาลเจ้าจี้กง
หรือมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรม
ตั้งอยู่ ตรงข้ามกับวัดพระโยค บนถนนศรีพุนพิน
เป็นสถานที่ที่มีอรหันต์จี้กงเป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยเทวาจารย์ทั้งสี่องค์ตั้งอยู่ที่ชั้นสอง
ส่วนชั้นล่างเป็นสำนักงานและมีของที่ระลึกจากประเทศจีน โดยเฉพาะรูปจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีมากมาย


Tae Chew Puntaokong Shrine (ศาลเจ้าแต้จิ๋ว ปุนเถ่งกง) (SuratThani)

ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง เป็นเทพเจ้าแห่งความร่มเย็นเป็นสุข ป้องกันภัยต่าง ๆ การค้าเจริญรุ่งเรือง
เทพเล่าปุนเถ้ากง เปรียบเสมือนเทพผู้เป็นใหญ่ในท้องที่นั้น ๆ เป็นเทพเจ้าประจำท้องถิ่นที่จะคอยดูแลทุกข์สุขของประชาชนที่อยู่ในเขตนั้น ศาลเจ้าจีนที่อยู่ในตลาดหรือแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวจีน หากไม่ประดิษฐานเทพปุนเถ้ากงไว้เป็นประธานในศาล ก็ต้องตั้งเป็นเทพชั้นรอง ในตลาดสดส่วนใหญ่จะตั้งเทพปุนเถ้ากงเป็นประธาน เพื่อจะได้ช่วยปกป้องความร่มเย็น และการค้าเจริญรุ่งเรือง "ปุนเถ้ากง" เป็นภาษาแต้จิ๋ว ในภาษาจีนกลางจะเรียกว่า "เปิ่นโถวกง" หรือ "เปิ่นโถวกัง" นักวิชาการชาวจีนหลายท่านมีความเห็นว่า เทพปุนเถ้ากง และต้าเป๋อกง (ตั่วแปะกง) ก็คือเทพองค์เดียวกัน เป็นเทพที่นักเดินเรือในสมัยราชวงศ์ซ่งกราบไหว้กัน โดยมีชื่อเดิมว่า "โตวกง" แต่ที่ปีนังชาวพื้นเมืองเรียกเทพองค์นี้ว่า "เปิ่นโถวกง" ที่ฟิลิปปินส์เรียกเทพองค์นี้ว่า "เปิ่นโถวกัง"

"ปุนเถ้ากง" นับได้ว่าเป็นเทพที่ชาวจีนแต้จิ๋วและจีนฮกเกี้ยน นับถือมากที่สุด รองลงมาก็คือเจ้าแม่กวนอิม, เจ้าแม่เทียนโหว, (หมาโจ้วหรือเจ้าแม่ไข่มุก) เจ้าพ่อกวนอู , เทพแห่งทิศเหนือ (เหียงเทียนเสียงตี่่-แต้จิ๋ว) หรือ ชาวไทยเรียกว่าเจ้าพ่อเสือ และเจ้าแม่จุยโบวเนี้ยว (ไหหลำ) หรือเจ้าแม่ทับทิม

32 ซ.บ้านดอน ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Ong Hok
Kian Shrine (ตำหนักอ๋องฮกเกี้ยน) (SuratThani)

ศาลเจ้าฮกเกี้ยน สร้างขึ้นเพื่อใช้ที่สักการะและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้รำลึกถึงบรรพบุรุษ และได้ไปอัญเชิญองค์เทพเจ้าแลฮู้อ๋องเอียกง มาจากมณฑลฮกเกี้ยน จำนวน ๓ องค์ มาประดิษฐานเป็นเจ้าองค์ประธานในศาลเจ้าฮกเกี้ยน ภายหลังได้มีการอัญเชิญองค์เทพเจ้ามาร่วมศาลอีก ๒ องค์ คือ เจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม
ในปีพ.ศ. ๒๔๙๖ ได้เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ เผาผลาญศูนย์กลางความเจริญของตลาดบ้านดอนไปหมดสิ้นรวมไปถึงศาลเจ้าฮกเกี้ยน ด้วยความศรัทธาที่มีต่อองค์เทพเจ้าแลฮู้อ๋องเอียกง เจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม ชาวฮกเกี้ยนจึงได้ช่วยกันปกป้ององค์เทพเจ้าทั้งสามให้รอดพ้นจากเพลิงไหม้ครั้งนั้นได้ ภายหลังจึงได้พร้อมใจกันก่อสร้างศาลเจ้าฮกเกี้ยนขึ้นมาใหม่ และอัญเชิญองค์เทพเจ้าทั้งสามกลับสู่ศาลเจ้าฮกเกี้ยนดังเดิม และกำหนดให้ถือเอาวันที่ ๙ เดือน ๙ ของทุกปี นับตามปฏิทินจีน เป็นวันฉลองวันเกิดขององค์เทพเจ้าแลฮู้อ๋องเอียกง องค์เทพเจ้าประธานของตำหนักอ๋องฮกเกี้ยนบ้านดอน

ถ.บ้านดอน ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Hailam Shrine Ban Don (ศาลเจ้าไหหลำ บ้านดอน) (SuratThani)

"ศาลเจ้าไหหลำ บ้านดอน" ภายในศาลเจ้าแห่งนี้จะมีเจ้าแม่ทับทิมหรือหม่าโจ้วเนี่ยเนี้ย หรือเทียงโฮ้วเซี้ยบ้อ เป็นองค์ประธาน ด้านขวาจะมีรูปบูชากวางตี้ หรือเทพเจ้ากวนอู ที่ชาวไหหลำให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง ด้านซ้ายจะมีเทพเจ้า 108 109 ตั้งอยู่ด้วย ที่สำคัญศาลเจ้าไหหลำแห่งนี้นับเป็นจุดศูนย์กลางของชาวไหหลำในสุราษฎร์ธานี

ถ.บ้านดอน ต.คลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Jee Kong Shrine (ศาลเจ้าจี้กง ) (SuratThani)

ศาลเจ้าจี้กง หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่ามูลนิธิส่งเสริมคุณธรรม จ.สุราษฎร์ธานี (เต็กก่าจีซู่เกาะ) เป็นสถานที่ที่มีอรหันต์จี้กง เป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยเทวาจารย์ทั้งสี่องค์ตั้งอยู่ที่ชั้นสอง ส่วนชั้นล่างเป็นสำนักงาน และมีของที่ระลึกจากประเทศจีน โดยเฉพาะรูปจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีมากมาย

23/9 หมู่ 2 ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84160

5. ศาลเจ้าหลวงปู่ไต้ฮงกง
หรือที่รู้จักกันในนามมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
มีหลวงปู่ไต้ฮงกงเป็นประธาน เป็นศาลเจ้าที่มีคนมาสักการะมากมาย สามารถทำบุญเติมน้ำมันตะเกียง บริจาคโลงศพแก่ผู้ไร้ญาติ ร่วมถึงการร่วมสนับสนุนแก่อาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้อีกด้วย





6. ศาลเจ้าโป๊ยเซียน
ศาลเจ้าโป๊ยเซียน หรือ "มูลนิธิมุทิตาจิตธรรม"
ตั้งอยู่ บนถนนหน้าเมือง เยื้องห้างโคลีเซียม
มีองค์เทพเจ้าโป๊ยเซียน หรือ แปดเซียน เป็นองค์ประธาน
ประดิษฐานอยู่บนชั้นสองของมูลนิธิ บริเวณเดียวกันเป็นเทวสถานเก้าแชเต้ง ประดิษฐานพระพุทธเจ้าสามภพ และมี
เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากแกรนิตขาว สูง 18 เมตร
ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าของมูลนิธิ ไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้สักการะขอพร และยังร่วมทำบุญบริจาคโลงศพได้ด้วย


7. มูลนิธิเมตตาธรรม หรือ อริยะสถานขงเมี่ยว
เป็นสถานที่ที่มีผู้มาปฏิบัติธรรมมากมาย
ชั้นล่าง
ขงจื้อผู้เป็นศาสดาของลัทธิเต๋า ประดิษฐานอยู่
ชั้นบน เรียกว่า อู๋จี๋กง เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของศาสดา
ทั้งสามพระองค์ และรูป องค์พระศรีอริยเมตไตรย พระพุทธจี้กง พระโพธิสัตว์จันทรปัญญา ท่านจอมเทพวินัยธรกวนอู ท่านจอมเทพวินัยธรหลวี่ฉุนหยัง นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์อนุตตรธรรม
ที่รวบรวมประวัติของขงจื้ออีกด้วย



8. ศาลเจ้าแป๊ะกง พวงเพชร
ตั้งอยู่ใกล้กับวิทยาลัยสารพัดช่างสุราษฎร์ธานี
มีองค์เทพเจ้าซาแป๊ะกง เป็นองค์ประธานของศาลเจ้า
ซาแป๊ะกงเป็นเทพเจ้า ที่ชาวสวนผักในอดีตจะให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เนื่องจากเทพเจ้าองค์นี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับทางน้ำ-ตาน้ำ หรือเรียกว่าการขุดบ่อน้ำบาดาลในสมัยอดีต เพราะชาวบ้านต่างต้องพึ่งพาแหล่งน้ำใต้ดินเพื่อการยังชีพและเพื่อการเกษตรจึ่งมีการกราบไหว้และบูชาเพื่อขอพรทางได้การค้นหาแหล่งตาน้ำก็ว่าได้

Tai Hong Kong Shrine (ศาลเจ้าหลวงปู่ไต้ฮ่งกง) (SuratThani)

ศาลเจ้าหลวงปู่ไต้ฮงกง ตั้งอยู่บน ถ.ภักดีอนุสรณ์ ใกล้กับสำนักงานของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีหรือที่รู้จักกันในนามมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี มีหลวงปู่ไต้ฮงกงเป็นประธาน เป็นศาลเจ้าที่มีคนมาสักการะมากมาย ที่สำคัญในระหว่างนี้ทางมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี กำลังบูรณะศาลเจ้าใหม่ โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนบูรณะศาลเจ้าในครั้งนี้ได้และในคราวเดียวกันก็สามารถทำบุญเติมน้ำมันตะเกียง บริจาคโลงศพแก่ผู้ไร้ญาติ ร่วมถึงการร่วมสนับสนุนแก่อาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีได้อีกด้วย

มูลนิธิกุศลศรัทธา 63/1 ถ.ภักดีอนุสรณ์ ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Poi Sian Shrine (ศาลเจ้าโป๊ยเซียน) (SuratThani)

ศาลเจ้าโป๊ยเซียน หรือ มูลนิธิมุทิตาจิตธรรม ตั้งอยู่บนถนนหน้าเมือง มีองค์เทพเจ้าโป๊ยเซียน หรือแปดเซียนเป็นองค์ประธาน ประดิษฐานอยู่ที่ชั้นสองของมูลนิธิ บริเวณเดียวกันเป็นเทวสถานเก้าแชเต้ง ประดิษฐานพระพุทธเจ้าสามภพ และมีเจ้าแม่กวนอิม แกะสลักจากแกรนิตขาว สูง 18 เมตร ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าของมูลนิธิ ไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้สักการะขอพร และยังร่วมทำบุญบริจาคโลงศพได้ด้วย มูลนิธิมุทิตาจิตธรรมตั้งอยู่เยื้องห้างโคลีเซียม

ถ.หน้าเมือง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Mettatham Foundation (มูลนิธิเมตตาธรรม) (SuratThani)

มูลนิธิเมตตาธรรม หรืออริยะสถานขงเมี่ยว ตั้งอยู่บน ถนนดอนนกซอย 33 เป็นสถานที่ที่มีผู้มาปฏิบัติธรรมมากมาย ชั้นล่างประดิษฐานขงจื้อ ผู้เป็นศาสดาของลัทธิเต๋าประดิษฐานอยู่ ชั้นบนซึ่งเรียกว่า อู๋จี๋กง เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของศาสดาทั้งสามพระองค์ และรูปองค์พระศรีอริยเมตไตรย พระพุทธจี้กง พระโพธิสัตว์จันทรปัญญา ท่านจอมเทพวินัยธรกวนอู ท่านจอมเทพวินัยธรหลวี่ฉุนหยัง นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ อนุตตรธรรม ที่รวบรวมประวัติของขงจื้อให้ศึกษาอีกด้วย

338/1 ถ.ดอนนก ซ. 33 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

Pae Kong Shrine Puang Petch (ศาลเจ้าแป๊ะกง พวงเพชร) (SuratThani)

ศาลเจ้าแป๊ะกง พวงเพชร ตั้งอยู่ใกล้กับวิทยาลัยสารพัดช่างสุราษฎร์ธานี มีองค์เทพเจ้าซาแป๊ะกง เป็นองค์ประธานของศาลเจ้า ซาแป๊ะกงเป็นเทพเจ้าที่ชาวสวนผักในอดีตให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เนื่องจากเทพเจ้าองค์นี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับทางน้ำ ตาน้ำ หรือเรียกว่าการขุดบ่อน้ำบาดาลในสมัยก่อน

246 ถ.ศรีสวัสดิ์ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000

ไปยังเว็บใหม่ t-Globe?
ลงทะเบียนสมาชิกเพื่อได้รับข้อมูลทุกอย่างในเว็บไซด์
ชื่อ
อีเมล์
รหัสผ่าน
ยืนยันรหัสผ่าน

สมาชิกที่ลงทะเบียนจะสามารถ:
  • การใช้งานเชิงโต้ตอบt-Maps
  • ดูธุรกิจละแวกใกล้เคียง
  • พิมพ์ คู่มือท่องเที่ยวรูปแบบไฟล์ PDF
  • ได้รับคูปองส่วนลดสำหรับโรงแรมร้านอาหารและบริการอื่น ๆ
  • จดบันทึก และบันทึกข้อมูลเพื่อใช้ในอนาคต
  • ติดตามการเยี่ยมชมหน้าเว็บ