|  | 
| 
 พังงา
 Destination: PhangNga
  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 Chedi   >>  
 Chedi Wat Thamtapan (เจดีย์วัด ถ้ำตาปาน) (PhangNga)  เจดีย์บนวัดถ้ำตาปาน เจดีย์แห่งนี้มีจุดชมวิวย์ที่พิเศษ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองพังงา ซึ่งอยู่ในหนึ่งสถานที่ที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย เมื่อเดินขึ้นไปบนองค์เจดีย์ บริเวณสุขาจะเป็นที่ชื่นชอบของลิงป่าและที่นี่ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่โดดเด่นของนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ดูเหมือนว่าเจ้าฝูงลิงจะอาศัยอยู่ที่อื่นจะมาเพียงแค่มาขออาหารจากนักท่องเที่ยว ดังนั้นตอนนี้ขึ้นไปเจดีย์แห่งนี่จึงคุ้มค่า เจดีย์ที่มีหอคอยที่มียอดแหลมเรียวบนวัดถ้ำตาปานในทางทิศตะวันตกของตัวเมืองพังงา ซ.ถ้ำตาปาน ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา จ.พังงา 82000  Chedi   >>  
 Chedi Khao Lang Bart (เจดีย์เขาล้างบาศ) (PhangNga)  เจดีย์เขาล้างบาศ ตั้งอยู่บนยอดเขาเตี้ยๆ ในเขตอำเภอเมืองพังงาทางด้านหลังโรงเรียนสตรีพังงา ติดกับสำนักงานสามัญศึกษาจังหวัดพังงาหลังเก่า เราต้องเดินขึ้นไปตามขั้นบันไดอิฐโบราณไป 122 ขั้น ซึ่งค่อนข้างสูงชัน เจดีย์เขาล้างบาศมีความสูงจากฐานถึงยอดประมาณ 8 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้างด้านละ 5.50 เมตร เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะโบราณช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลายถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แม้จะเป็นโบราณสถานขนาดเล็กแต่ก็เป็นที่ที่เราสามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองพังงาได้อย่างชัดเจน บรรยากาศแสนร่มรื่น ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา จ.พังงา 82000  
 
 Building   >>  
 The Old City Hall (ศาลากลางหลังเก่า) (PhangNga)  ศาลากลางหลังเก่าที่สวยงามนี้ เป็นตึกชั้นเดียวขนานไปกับถนนเพชรเกษมในตัวเมืองพังงา รูปแบบอาคารเป็นทรงปั้นหยา ตรงกึ่งกลางอาคารด้านหน้าต่อเป็นหน้ามุขเปิดโล่ง มีระเบียงยาวตลอดตัวอาคาร ปลายปีกอาคารทั้งสองข้างจัดเป็นห้องโถงใหญ่ เสาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ฝาผนังก่ออิฐถือปูน พื้นอาคารเป็นใม้เนื้อแข็ง เก่าแก่แข็งแรง หลังคาปูด้วยกระเบื้องซีเมนต์ สร้างขึ้นนปี พ.ศ. 2473 สมัยรัชกาลที่ 7 อันเนื่องมาจากการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยที่ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างอาคารกลางจังหวัดให้สวยงามทันสมัย กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ. 2504 ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000  Cave   >>  
 Tham Pung Chang (ถ้ำพุงช้าง) (PhangNga)  ถ้ำพุงช้างเป็นถ้ำที่ใหญ่อยู่กลางเขาช้างสัญลัษณ์หนึ่งของพังงา เข้าทางวัดประพาสประจิมเขต ริมถนนเพชรเกษมในเขตเทศบาลเมือง มีความงดงามน่าพิศวงตามธรรมชาติ ด้วยหินงอกหินย้อยอันหากหลายรูปลักษณ์ เช่น คนตกปลา แป๊ะยิ้ม โขลงช้างเดิน ช้างใต้ฉัตร บันไดทองอันวิจิตร มีสายน้ำไหลผ่านกลางถ้ำทั้งช่วงลึกและตื้น ในการเข้าชมนักท่องเที่ยวสามารถเดินลุยน้ำ นั่งแพ และนั่งเรือแคนูที่มีบริการ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง การแต่งกายควรสวมกางเกงขาสั้น รองเท้าที่เป็นยาง ถ้ำพุงช้างยังเป็นแหล่งที่สองของประเทศไทย ที่มีการพบค้างคาวกิตติ ค้างคาวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกและพบครั้งแรกในไทย ปี พ.ศ. 2516 แถวป่าเขาจังหวัดกาญจนบุรี ภายในวัดประพาสประจิมเขต หลังศาลากลางจังหวัด บ้านหัวช้าง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000  Park   >>  
 Srinakarin Park (สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์) (PhangNga)  สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เป็นสวนสาธารณะ สำหรับประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจบนเนื้อที่ 162 ไร่ 294 ตารางวา ภายในมีพื้นที่และอุปกรณ์ไว้สำหรับการออกกำลังกาย สวนกึ่งธรรมชาติแห่งนี้ยังมีถ้ำฤาษีสวรรค์อยู่บริเวณด้านหน้าภายในถ้ำจะมีธารน้ำใส หินงอกหินย้อย เป็นลักษณะถ้ำลอดสามารถผ่านไปอีกด้านได้ใกล้ๆ กันมีถ้ำลูกเสือ ที่มีขนาดเล็กกว่า ในถ้ำก็มีหินงอกหินย้อยอยู่ประปรายเช่นกัน มีลำธารไหลลอดถ้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ที่เกิดจากการขึ้นลงของน้ำทะเล ทำให้มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่หลากหลาย มีการสร้างสะพานข้ามลำธารระหว่างถ้ำให้เชื่อมต่อกัน และมีฝูงลิงอยู่ด้านหน้าถ้ำด้วย พื้นที่กว้างขวางร่มรื่นสวยงามแบบธรรมชาติ มีพรรณไม้ดอกไม้ประดับหลายชนิดโดยเฉพาะต้นตะเคียนทองและต้นเทพทาโร ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดพังงา ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัด ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา 82000  Mountain   >>  
 Khao Chang (เขาช้าง) (PhangNga)  เขาช้างเป็นภูเขาหินปูนใหญ่สูงประมาณ 500 เมตร ตั้งอยู่ด้านหลังศาลากลางเก่า สัณฐานว่ามีรูปร่างคล้ายช้างขนาดใหญ่นอนหมอบหันหัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีตำนานของสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเขาช้างและเมืองพังงามากมาย เช่น ถ้ำพุงช้าง วังหม้อแกง เขาพิงกัน บ้านช้างนอน เขาหินลับ บ้านตากแดด และเขาตางุ้ม เป็นต้น ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายเหมือง อ.เมือง จ.พังงา 82000  
 
 | 
ไปยังเว็บใหม่ t-Globe? ลงทะเบียนสมาชิกเพื่อได้รับข้อมูลทุกอย่างในเว็บไซด์ 
 สมาชิกที่ลงทะเบียนจะสามารถ: | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||

|  | 









 ก็สะดวกสบายมากคุณสามารถเลือกใช้บริการเรือหางยาวที่ขับเคลื่อนโดยชาวบ้านผู้ที่ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดีการท่องเที่ยวทางเรือหางยาวเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของการเที่ยวชมธรรมชาติของจังหวัดพังงาก็ว่าได้
ก็สะดวกสบายมากคุณสามารถเลือกใช้บริการเรือหางยาวที่ขับเคลื่อนโดยชาวบ้านผู้ที่ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดีการท่องเที่ยวทางเรือหางยาวเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของการเที่ยวชมธรรมชาติของจังหวัดพังงาก็ว่าได้  
  
  
  จังหวัดพังงา อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 788 กม. ใช้เวลาเดินทางร่วม 8-9 ชั่วโมง เราจึงต้องออกเดินทางกันแต่เช้า โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึง จังหวัดชุมพร จากจังหวัดชุมพรตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วจะมีแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401 ผ่าน อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 415 ผ่าน อำเภอทับปุด มุ่งเข้าสู่ตัวเมืองพังงา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมาย 4 อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ 84 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดภูเก็ต  92  กิโลเมตร และห่างจากเขาหลัก 57 กิโลเมตร แต่กว่าจะถึงตัวเมืองพังงาก็คงบ่ายคล้อย ขอแนะนำให้ขับรถต่อไปอีกนิดพอถึงแยกกะไหล่เลี้ยวตามป้ายบ้านสามช่องเพื่อรับประทานอาหารทะเลที่สดและอร่อย คืนนี้ขอแนะนำให้นอนที่หมู่บ้านชาวประมงบ้านสามช่องใต้ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย หลังจากเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สามช่องใต้เสร็จแล้วก็มุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อพบกับ"เมืองพังงา" เมืองที่สงบเงียบมากด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและมีความเป็นธรรมชาติไม่เหมือนกับที่อื่นหากมาเที่ยวที่เมืองพังงานี้ก็จะได้พบกับบรรยากาศอันสวยงามของธรรมชาติและความเป็นกันเองของชาวบ้าน
จังหวัดพังงา อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 788 กม. ใช้เวลาเดินทางร่วม 8-9 ชั่วโมง เราจึงต้องออกเดินทางกันแต่เช้า โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึง จังหวัดชุมพร จากจังหวัดชุมพรตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วจะมีแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401 ผ่าน อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 415 ผ่าน อำเภอทับปุด มุ่งเข้าสู่ตัวเมืองพังงา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมาย 4 อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ 84 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดภูเก็ต  92  กิโลเมตร และห่างจากเขาหลัก 57 กิโลเมตร แต่กว่าจะถึงตัวเมืองพังงาก็คงบ่ายคล้อย ขอแนะนำให้ขับรถต่อไปอีกนิดพอถึงแยกกะไหล่เลี้ยวตามป้ายบ้านสามช่องเพื่อรับประทานอาหารทะเลที่สดและอร่อย คืนนี้ขอแนะนำให้นอนที่หมู่บ้านชาวประมงบ้านสามช่องใต้ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย หลังจากเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สามช่องใต้เสร็จแล้วก็มุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อพบกับ"เมืองพังงา" เมืองที่สงบเงียบมากด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและมีความเป็นธรรมชาติไม่เหมือนกับที่อื่นหากมาเที่ยวที่เมืองพังงานี้ก็จะได้พบกับบรรยากาศอันสวยงามของธรรมชาติและความเป็นกันเองของชาวบ้าน 
 การมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านพื้นเมืองซึ่งในปัจจุบันตามร้านน้ำชา (ร้านกาแฟ) ยังคงมีผู้เฒ่าผู้แก่จำนวนมากมานั่งสนทนากันในตอนเช้าทำให้ยังคงบรรยากาศคาสสิคหาได้ไม่ง่ายแล้วในปัจจุบันนี้อีกทั้งตลาดสดที่ตั้งอยู่ใกล้กับห้างบิ๊กซีก็มีร้านค้าแผงลอยมาตั้งขายอาหารทั้งคราวและหวานจำนวนมาก ถ้าท่านต้องการเห็นความบรรยากาศร้านน้ำชาในตอนเช้าตรู่ก็ควรเลือกพักค้างคืนที่ตัวเมืองอีกสักคืนเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองแถมยังมีเวลาเดินเล่นตอนเย็นเพื่อเลือกชิมอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ ซึ่งเปิดบริการกันหลากหลายร้านตามท้องถนนที่สำคันราคาที่พักของเมืองพังงานี้จะมีราคาไม่แพงซึ่งยังคงเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายมีบริการเป็นกันเองพร้อมที่จะยินดีเชื้อเชิญให้ท่านเข้าพัก
การมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านพื้นเมืองซึ่งในปัจจุบันตามร้านน้ำชา (ร้านกาแฟ) ยังคงมีผู้เฒ่าผู้แก่จำนวนมากมานั่งสนทนากันในตอนเช้าทำให้ยังคงบรรยากาศคาสสิคหาได้ไม่ง่ายแล้วในปัจจุบันนี้อีกทั้งตลาดสดที่ตั้งอยู่ใกล้กับห้างบิ๊กซีก็มีร้านค้าแผงลอยมาตั้งขายอาหารทั้งคราวและหวานจำนวนมาก ถ้าท่านต้องการเห็นความบรรยากาศร้านน้ำชาในตอนเช้าตรู่ก็ควรเลือกพักค้างคืนที่ตัวเมืองอีกสักคืนเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองแถมยังมีเวลาเดินเล่นตอนเย็นเพื่อเลือกชิมอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ ซึ่งเปิดบริการกันหลากหลายร้านตามท้องถนนที่สำคันราคาที่พักของเมืองพังงานี้จะมีราคาไม่แพงซึ่งยังคงเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายมีบริการเป็นกันเองพร้อมที่จะยินดีเชื้อเชิญให้ท่านเข้าพัก 
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 

 
  
  
  
  
  
  
 

